ขลิบหรือไม่ขลิบดี?  และสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจขลิบ

ในปี 2025 เป็นยุคที่ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น และหนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงมากในหมู่ผู้ชายคือ การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “ ขลิบ ”  ถือเป็นการผ่าตัดเล็กที่มีมานานในหลายวัฒนธรรมและศาสนา แต่สำหรับบางคนที่ไม่ได้มีความเชื่อหรือข้อบังคับทางศาสนา การขลิบถือเป็นเรื่องที่ยังลังเลใจว่า ควรขลิบหรือไม่ควรขลิบ?

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงข้อดี ข้อเสีย วิธีการขลิบแบบต่างๆ และแนวทางดูแลการรักษาก่อนและหลังการขลิบ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ

การขลิบคืออะไร?

การขลิบ ( Circumcision ) คือการผ่าตัดเพื่อตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายออก เพื่อให้สามารถทำความสะอาดบริเวณหัวของอวัยวะเพศชายได้ จากคราบเหงื่อ สารคัดหลั่ง และคราบปัสสาวะ หรือเชื้อโรคอื่นๆ  โดยการขลิบสามารถทำได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิด เด็ก หรือแม้แต่ในวัยผู้ใหญ่ ซึ่งจุดประสงค์ของการขลิบอาจแตกต่างกันออกไปตามวัฒนธรรม ความเชื่อ หรือเหตุผลทางการแพทย์ 

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการขลิบ

ข้อดีของการขลิบ

• ช่วยให้ทำความสะอาดองคชาตได้อย่างทั่วถึง ทำให้ไม่เกิดกลิ่นเหม็น
• ลดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
• ลดโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
• ลดการติดเชื้อ HPV คือไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งอวัยวะเพศ มะเร็งทวารหนัก และหูดหงอนไก่
• ป้องกันภาวะหนังหุ้มปลายบีบรัด หลังจบกิจกรรมทางเพศ 
• รักษาภาวะหนังหุ้มปลายตีบตัน

 

ข้อเสียของการขลิบ

• การขลิบแบบธรรมดาจะใช้ระยะเวลาในการฟักฟื้นหลังผ่าตัดนาน และมีอาการเจ็บหรือไม่สบายตัวช่วงหลังทำ
• หากดูแลแผลหลังผ่าตัดไม่ดี จะเสี่ยงต่อแผลติดเชื้อและแผลหายช้า
•  อาจลดความไวของปลายอวัยวะเพศ ในผู้ชายบางคนรู้สึกว่าสัมผัสทางเพศลดลง เนื่องจากปลายอวัยวะสัมผัสกับเสื้อผ้าบ่อย
• การขลิบไม่จำเป็นกับบางคนถ้าไม่มีปัญหาทางการแพทย์ และสามารถรักษาความสะอาดได้ดี 

วิธีการขลิบหนังหุ้มปลาย

 การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ สามารถทำได้ 3 วิธี ดังนี้

1.  การขลิบแบบธรรมดา

โดยแพทย์จะทำการฉีดยาชา และใช้กรรไกร หรือมีด รวมทั้งเครื่องจี้ไฟฟ้าเปิดหนังหุ้มปลายออก และเย็บติดกัน การขลิบปลายด้วยวิธีนี้จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บ เสียเลือด แผลหายช้า และใช้เวลาในการพักฟื้นหลังผ่าตัดนาน

 

2. การขลิบโดยใช้เลเซอร์

ลักษณะวิธีการขลิบปลายประเภทนี้จะคล้ายกับการขลิบแบบธรรมดา จะต่างกันตรงที่ว่าอุปกรณ์ที่ใช้เปิดหนังหุ้มปลายจาก กรรไกร มีด และเครื่องจี้ไฟฟ้า เปลี่ยนมาเป็นเลเซอร์ แต่ขั้นตอนการเย็บเป็นแบบเดียวกัน อีกทั้งในด้านของแผล และการพักฟื้นหลังผ่าตัดใช้เวลานานเท่ากัน แต่การขลิบปลายโดยใช้เลเซอร์นี้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการขลิบปลายแบบธรรมดา

 

3. การขลิบไร้เลือด

เป็นการขลิบปลายที่แพทย์จะใช้เครื่องมือตัดเย็บอัตโนมัติ และใช้เวลาเพียง 10-15 นาที ในการทำการหัตถกรรม วิธีการนี้จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บน้อย ลดการเสียเลือด แผลหลังการผ่าตัดสามารถหายได้ไวกว่าการขลิบปลายวิธีอื่นๆ อีกทั้งการขลิบไร้เลือดนี้ยังลดความเสี่ยงในการเกิดเชื้อโรคที่เกิดขึ้นหลังจากผ่าตัด 

แนวทางการดูแลก่อนรักษาและหลังการขลิบปลายอวัยวะเพศ

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการขลิบ

• หากคุณมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือมีการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า เพื่อให้สามารถวางแผนการดูแลอย่างเหมาะสม
• ไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหาร ก่อนเข้ารับการขลิบ เว้นแต่แพทย์จะแจ้งเป็นกรณีเฉพาะ
• เมื่อเสร็จหัตถการแล้ว โดยทั่วไปคุณสามารถกลับบ้านได้ทันที แต่ควรมีผู้ดูแลพากลับหากรู้สึกไม่สบาย การดูแลหลังการขลิบ
• เมื่อยาชาหมดฤทธิ์ อาจรู้สึกเจ็บหรือไม่สบาย สามารถใช้การประคบเย็น หรือตามคำแนะนำแพทย์ในการรับประทานยาแก้ปวด

 

แนวทางการดูแลหลังเข้ารับการขลิบ

• 3 วันแรกหลังการขลิบ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ หากเปียกควรซับให้แห้งทันที และใส่กางเกงที่ไม่รัดแน่นจนเกินไป
• ทำความสะอาดแผล และทายาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
• หลีกเลี่ยงการนั่งหรือนอนในท่าที่กดทับบริเวณแผลโดยตรง
• ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ หรือสิ่งที่กระตุ้นให้อวัยวะเพศแข็งตัวอย่างน้อย 3 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายดี 
• หากพบอาการผิดปกติ เช่น แผลบวมแดงมาก มีหนองไหล หรือเลือดออกไม่หยุด ควรรีบพบแพทย์ทันที

 

สรุป ขลิบหรือไม่ขลิบดี?

ในทุกวันนี้ผู้ชายหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น แต่ในเรื่องการขลิบ ยังคงเป็นประเด็นว่าควรขลิบหรือไม่ควรขลิบดี แต่ละท่านคงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว โดยจากการพิจารณาบทความข้างต้นข้อดีและข้อเสีย ซึ่งผลลัพ์จากการขลิบมีแต่ข้อดีควรทำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น ผู้ชายทุกคนควรได้เข้ารับการขลิบ เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดและลดความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ทาง Eternity Clinic มีบริการ การขลิบไร้ลือดรุ่นไทเทเนียม ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทันสมัย ปลอดภัย และได้มาตรฐาน หากท่านไหนสนใจ สามารถเข้ามาปรึกษากับทางคลินิก หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆเช่น Facebook Twitter และ Instagram